การศึกษาในคณะวิชาต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีแนวทางและระเบียบต่าง ๆ โดยสังเขป ดังต่อไปนี้ (ยกเว้น แนวทางการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งมีแนวทางที่แตกต่างกันบางประการ ซึ่งจะกล่าวไว้ในตอนท้าย) ส่วนรายละเอียดขอให้ศึกษาจากระเบียบมหาวิทยาลัยฯ ว่าด้วยการศึกษาชั้นปริญญาตรี พ.ศ. 2558
ระบบการศึกษา
มหาวิทยาลัยจัดการศึกษาโดยใช้ระบบทวิภาคเป็นหลัก โดยปีการศึกษาหนึ่ง ๆ มี 2 ภาคการศึกษาปกติ ซึ่งเป็นภาคการศึกษาบังคับ คือ ภาคการศึกษาที่หนึ่ง และภาคการศึกษาที่สอง โดยแต่ละภาคการศึกษาปกติ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และมหาวิทยาลัยอาจเปิดภาคฤดูร้อนเพิ่มอีกได้ ซึ่งเป็นภาคการศึกษาที่ไม่บังคับ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 7 สัปดาห์ แต่ให้มีจำนวนชั่วโมงเรียนของแต่ละรายวิชาเท่ากับภาคการศึกษาปกติ
การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผลในแต่ละรายวิชา ให้วัดและประเมินผลเป็นระดับคะแนน หรือสัญลักษณ์
1. การวัดและประเมินผลเป็นระดับคะแนน มี 8 ระดับ มีความหมาย ดังนี้
ระดับคะแนน | ความหมาย | ค่าระดับคะแนน (ต่อหนึ่งหน่วยกิต) |
|
A | ดีเยี่ยม (Excellent) | 4.0 | |
B+ | ดีมาก (Very Good) | 3.5 | |
B | ดี (Good) | 3.0 | |
C+ | พอใช้ (Fairly Good) | 2.5 | |
C | ปานกลาง (Fair) | 2.0 | |
D+ | อ่อน (Poor) | 1.5 | |
D | อ่อนมาก (Very Poor) | 1.0 | |
E | ตกออก (Fail) | 0.0 |
2. การวัดและประเมินผลเป็นสัญลักษณ์ มีความหมายดังนี้
รายวิชาที่ไม่มีจำนวนหน่วยกิต เช่น รายวิชาฝึกงานและรายวิชาที่มีจำนวนหน่วยกิต แต่หลักสูตรกำหนดให้มีการวัดและประเมินผลเป็นสัญลักษณ์ เช่น รายวิชาสหกิจศึกษา หรือรายวิชาที่กำหนดในระเบียบฯ ของคณะ กำหนดสัญลักษณ์ ดังนี้
G (Distinction) หมายความว่า ผลการศึกษาอยู่ในขั้นดี
P (Pass) หมายความว่า ผลการศึกษาอยู่ในขั้นพอใช้
F (Fail) หมายความว่า ผลการศึกษาอยู่ในขั้นตก
รายวิชาที่ไม่นับหน่วยกิตเป็นหน่วยกิตสะสม กำหนดสัญลักษณ์ ดังนี้
S (Satisfactory) หมายความว่า ผลการศึกษาเป็นที่พอใจ
U (Unsatisfactory) หมายความว่า ผลการศึกษาไม่เป็นที่พอใจ
สัญลักษณ์อื่น ๆ ได้แก่
I (Incomplete) หมายความว่า การวัดและประเมินผลยังไม่สมบูรณ์
W (Withdrawn) หมายความว่า ถอนหรือยกเลิกการลงทะเบียนเรียน
R (Deferred) หมายความว่า เลื่อนกำหนดการวัดและประเมินผลไปเป็นภาคการศึกษาปกติถัดไป ใช้สำหรับรายวิชาที่นักศึกษาได้สัญลักษณ์ I และมิใช่รายวิชาภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งอาจารย์ผู้สอนมีความเห็นว่าไม่สามารถวัดและประเมินผลได้ก่อนสิ้น 1 สัปดาห์แรกของภาคการศึกษาปกติถัดไป โดยมีสาเหตุอันมิใช่ความผิดของนักศึกษา
การทุจริตในการวัดผล เมื่อมีการตรวจพบว่า นักศึกษาทุจริตในการวัดผล เช่น การสอบรายวิชาใดให้ผู้ที่รับผิดชอบการวัดผลครั้งนั้น หรือผู้ควบคุมการสอบ รายงานการทุจริตพร้อมส่งหลักฐานการทุจริตไปยังคณะที่นักศึกษานั้นสังกัด ตลอดจนแจ้งให้อาจารย์ผู้สอนรายวิชานั้นทราบ โดยให้นักศึกษาที่ทุจริตในการวัดผลดังกล่าวได้ระดับคะแนน E หรือสัญลักษณ์ F หรือ U ในรายวิชานั้น และอาจพิจารณาโทษทางวินัยประการใดประการหนึ่ง ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ว่าด้วยวินัยนักศึกษา
สถานภาพนักศึกษา
มหาวิทยาลัยจะจำแนกสถานภาพนักศึกษาตามผลการศึกษาในทุกภาคการศึกษา ทั้งนี้ ไม่นับภาคการศึกษาที่ได้ ลาพักหรือถูกให้พัก สถานภาพนักศึกษามี 3 ประเภท คือ นักศึกษาในภาวะปกติ นักศึกษาในภาวะวิกฤต และนักศึกษาในภาวะรอพินิจ
การลา
การลาป่วยหรือลากิจ การลาไม่เกิน 7 วัน ในระหว่างเปิดภาคการศึกษา ต้องได้รับการอนุมัติจากอาจารย์ผู้สอนและแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาทราบ ถ้าเกิน 7 วัน ต้องได้รับการอนุมัติจากคณบดี โดยผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา สำหรับงานหรือการสอบที่นักศึกษาได้ขาดไปในช่วงเวลานั้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอน ซึ่งอาจจะอนุญาตให้ปฏิบัติงาน หรือสอบทดแทน หรือยกเว้นได้
การลาพักการศึกษา การลาพักการศึกษาเป็นการลาพักทั้งภาคการศึกษา และถ้าได้ลงทะเบียนเรียนไปแล้ว ให้เป็นการยกเลิกการลงทะเบียน โดยรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนเรียนทั้งหมดในภาคการศึกษานั้น จะไม่ปรากฏในใบแสดงผลการศึกษา
การลาออก นักศึกษายื่นใบลาออก พร้อมหนังสือรับรองของผู้ปกครอง ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขออนุมัติต่ออธิการบดี ผู้ที่จะได้รับอนุมัติให้ลาออกได้ต้องไม่มีหนี้สินกับมหาวิทยาลัย
การเสนอชื่อเพื่อรับปริญญาและการอนุมัติให้ปริญญา
นักศึกษาที่จะได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับปริญญาต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ดังนี้
- ได้ศึกษาและผ่านการวัดและประเมินผลรายวิชาต่าง ๆ ครบถ้วนตามหลักสูตรและข้อกำหนดของสาขาวิชาที่จะรับปริญญา โดยไม่มีรายวิชาใดที่ได้สัญลักษณ์ I หรือ R ค้างอยู่ ทั้งนี้นับรวมถึงรายวิชาที่ได้รับการรับโอนและเทียบโอน และนักศึกษาจะต้องผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อพัฒนานักศึกษาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดด้วย
- ยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษาอยู่และได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.00 หากเป็นนักศึกษาที่โอนย้ายมาจากสถาบันอุดมศึกษาอื่น จะต้องศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อย่างน้อยหนึ่งปีการศึกษา
- ระยะเวลาการสำเร็จการศึกษา
- ไม่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาโทษทางวินัยนักศึกษา
- ได้ปฏิบัติตามระเบียบต่าง ๆ ครบถ้วนและไม่มีหนี้สินใด ๆ ต่อมหาวิทยาลัย
- ได้ดำเนินการเพื่อขอรับปริญญาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
การขอเข้าศึกษาเพื่อปริญญาที่สอง
- นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น อาจขอเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรีสาขาวิชาอื่นเป็นการเพิ่มเติมได้
- การรับเข้าศึกษา ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการประจำคณะที่นักศึกษาขอเข้าศึกษา และอธิการบดี
- การรับโอนและเทียบโอนรายวิชา
การศึกษาสองปริญญาพร้อมกัน
นักศึกษาที่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจขอศึกษาสองปริญญาพร้อมกันได้ โดยต้องเป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 2 หลักสูตร ที่ให้ผู้เรียนศึกษาพร้อมกัน โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาจากทั้งสองหลักสูตร
การพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
- ตายหรือลาออก
- ต้องโทษทางวินัยให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
- ไม่ได้ลงทะเบียนเรียนภายใน 30 วัน นับจากวันเปิดภาคการศึกษาปกติ โดยมิได้รับการอนุมัติให้ลาพักการศึกษา หรือไม่ได้รักษาสถานภาพ
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.00 ในภาคการศึกษาแรกที่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.25 ในสองภาคการศึกษาแรกที่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ไม่นับภาคการศึกษาที่ลาพักหรือถูกให้พัก
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.50 ยกเว้นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน ในสองภาคการศึกษาแรกที่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.70 ในภาคการศึกษาถัดไป หลังจากได้รับภาวะรอพินิจครั้งที่ 1
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.90 ในภาคการศึกษาถัดไป หลังจากได้รับภาวะรอพินิจครั้งที่ 2
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 2.00 ในภาคการศึกษาถัดไป หลังจากได้รับภาวะรอพินิจครั้งที่ 3
- ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมาแล้ว เป็นระยะเวลาเกิน 2 เท่าของจำนวนปีการศึกษาต่อเนื่องกัน ตามที่ได้กำหนดไว้ในแผนการศึกษาของสาขาวิชาที่ศึกษาอยู่ สำหรับนักศึกษาที่รับโอนให้นับเวลาที่เคยศึกษาอยู่ในสถาบันเดิมรวมเข้าด้วย
- ได้รับการอนุมัติปริญญา
- ได้รับการวินิจฉัยโดยคณะกรรมการแพทย์ซึ่งแต่งตั้งโดยอธิการบดี ว่าป่วยจนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ทั้งนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการประจำคณะ
การศึกษาในคณะแพทยศาสตร์
ผู้ที่สอบได้คณะแพทยศาสตร์ จะต้องทำสัญญาการเป็นนักศึกษาและมีสัญญาค้ำประกัน โดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้ค้ำประกันตามประกาศของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายหลังจากที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้ว ต้องปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือองค์การไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกันหากไม่ปฏิบัติตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินให้กับมหาวิทยาลัยเป็นจำนวน 400,000 บาท
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตเป็นหลักสูตร 6 ปี โดยแบ่งเวลาศึกษาเป็น 3 ระยะ คือ
- ระยะที่ 1 (Premedical year) ในชั้นปีที่ 1 เป็นการบูรณาการเนื้อหาด้านการศึกษาทั่วไปให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และยังเชื่อมโยงไปสู่การเรียนในระยะที่ 2 และ 3 ต่อไป เป็นการศึกษารายวิชาของคณะศิลป-ศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์
- ระยะที่ 2 (Preclinical years) ในชั้นปีที่ 2 และ 3 เป็นการศึกษาวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยบูรณาการความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่การทำงานโดยปกติของร่างกายมนุษย์กับพยาธิสภาพต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานของการเรียนในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
- ระยะที่ 3 (Clinical years) ในชั้นปีที่ 4-6 เป็นการเรียนรู้ความผิดปกติหรือโรคต่างๆ ทั้งทางกายและจิตใจ โดยมีการบูรณาการความรู้จากทฤษฎีกับประสบการณ์ในผู้ป่วยจริง เพื่อให้มีความรู้และทักษะตามเกณฑ์มาตรฐานของแพทยสภา โดยในชั้นปีที่ 6 จะเป็นการฝึกปฏิบัติงานในการตรวจรักษาผู้ป่วยด้วยตนเอง ภายใต้ความรับผิดชอบของอาจารย์แพทย์ทั้งในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์และโรงพยาบาลสมทบ
ในกรณีที่นักศึกษาไม่สามารถศึกษาจนจบหรือไม่ประสงค์จะเรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต สามารถยื่นคำร้องขอรับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ หากนักศึกษาได้ลงทะเบียนเรียนรายวิชาครบตามโครงสร้างของหลักสูตร
การศึกษาในคณะทันตแพทยศาสตร์
มีสิทธิ์เข้าศึกษาในคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะต้องทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาทันตแพทยศาสตร์และสัญญาค้ำประกันตามประกาศของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้วจะต้องเข้ารับราชการหรือทำงานในสถานศึกษาส่วนราชการหรือองค์กรของรัฐบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกันไปนับตั้งแต่วันที่ได้กำหนดในคำสั่ง หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาจะต้องรับผิดชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นเงินจำนวนเงิน 400,000 บาท และหากยุติหรือเลิกการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต โดยลาออกจากการเป็นนักศึกษา หรือมีเจตนา จงใจ ละเลย ทอดทิ้งการศึกษาหรือประพฤติตนไม่สมควร จนเป็นเหตุให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา จะต้องชดใช้เงินเป็นเบี้ยปรับให้แก่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
เป็นหลักสูตร 6 ปี กำหนดให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ลงทะเบียนเรียนเป็นระบบทวิภาคและในชั้นปีที่ 2 ถึงชั้นปีที่ 6 ลงทะเบียนเรียนเป็นรายปี ใน 2 ปีแรกนักศึกษาเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปและพื้นฐานทางการแพทย์ ใน 4 ปีหลังนักศึกษาเรียนวิชาทางทันตแพทยศาสตร์และฝึกปฏิบัติทางทันตกรรมทั้งในและนอกสถานที่
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 6 ต้องสอบผ่านการสอบประมวลความรู้เพื่อประเมินความรู้ความสามารถระดับการแพทย์พื้นฐานและระดับการแพทย์คลินิก จึงจะมีสิทธิ์ขอรับปริญญาทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์
นักศึกษาทันตแพทย์ที่ไม่สามารถศึกษาจนจบหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต หรือไม่ประสงค์จะศึกษาต่อในหลักสูตรดังกล่าว สามารถยื่นคำร้องขอรับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อศึกษาครบหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามหลักสูตรนี้
การศึกษาในคณะเภสัชศาสตร์
การศึกษาเพื่อปริญญาเภสัชศาสตรบัณฑิตของคณะเภสัชศาสตร์ เป็นหลักสูตร 6 ปี จำนวน 2 หลักสูตร คือ
1. หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2557
ได้รับปริญญาเภสัชศาสตรบัณฑิต หรือ ภ.บ. (เภสัชกรรมอุตสาหการ) Pharm.D. (Industrial Pharmacy) มี 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมแบบปกติ และโปรแกรมแบบก้าวหน้า
โปรแกรมแบบปกติ มุ่งเน้นสร้างเภสัชกรในภาคอุตสาหกรรมยา ได้แก่
-
- เภสัชกรด้านการผลิตที่มีความชำนาญในการพัฒนาระบบคุณภาพและการผลิตยา สมุนไพร เภสัชภัณฑ์สุขภาพ อาหาร และเครื่องสำอาง รวมทั้งมีความสามารถในการวิจัยพัฒนาคิดค้นยาใหม่หรือตำรับยาใหม่ๆ
- เภสัชกรด้านการตลาดยา สร้างผู้เชี่ยวชาญในการเสนอข้อมูลยาและเภสัชภัณฑ์สุขภาพ
- เภสัชกรด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสร้างศักยภาพที่จะเป็นผู้นำระดับสูงขององค์กรธุรกิจ
อย่างไรก็ตามเภสัชกรที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้ยังคงสามารถปฏิบัติงานเป็นเภสัชกรในร้านยา หรือในสถานบริการสุขภาพได้ เช่น การจ่ายยา การผลิตยาในโรงพยาบาล การจัดซื้อและจัดหายาเข้ามาใช้ในโรงพยาบาล แต่จะมีความรู้และทักษะในการดูแลด้านการใช้ยาในผู้ป่วยในเชิงลึกไม่มากเท่ากับผู้สำเร็จการศึกษาในสาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม
โปรแกรมแบบก้าวหน้า (Honors Program) เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับนักศึกษาในหลักสูตรสาขาเภสัชกรรมอุตสหาการที่มีศักยภาพสูงให้มีโอกาสเรียนรายวิชาระดับปริญญาโท-เอก ในขณะที่ยังศึกษาในระดับปริญญาตรี ทำให้สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาโท-เอก โดยมีระยะเวลาการศึกษาในระดับปริญญาโท-เอกลดลง
2. หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2557
ได้รับปริญญาเภสัชศาสตรบัณฑิต หรือ ภ.บ. (การบริบาลทางเภสัชกรรม) Pharm. D. (Pharm. Care)
มีเป้าหมายเพื่อผลิตเภสัชกรที่มีความรู้ ทักษะและความชำนาญในการให้การบริบาลทางเภสัชกรรมเพื่อดูแลการใช้ยาในผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย สามารถเป็นที่ปรึกษาเรื่องการใช้ยาให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ และสามารถประสานงานและทำงานเป็นทีมร่วมกับสหวิชาชีพในขณะเดียวกันก็มีความรู้ด้านเภสัชกรรมอุตสาหการในเรื่องยา สมุนไพร เภสัชภัณฑ์สุขภาพและอาหาร รวมทั้งด้านการบริหารจัดการ ในระดับที่สามารถประยุกต์กับงานบริบาลทางเภสัชกรรมได้
อาชีพที่สามารถประกอบได้ภายหลังสำเร็จการศึกษา: เภสัชกรในสถานบริการสุขภาพ เภสัชกรชุมชน (ร้านยา) เภสัชกรการตลาด (บริษัทยา) เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค (สาธารณสุขจังหวัด) เภสัชกรนักวิจัยและพัฒนา เภสัชกรในสถาบันการศึกษา สำหรับเภสัชกรการผลิต ประกันคุณภาพ และขึ้นทะเบียนยา (โรงงาน) นั้น ผู้สำเร็จการศึกษาในสาขานี้สามารถปฏิบัติงานได้ในระดับหนึ่งแต่จะไม่มีความรู้และทักษะมากเท่ากับผู้สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ
การฝึกปฏิบัติงาน
นักศึกษาทั้ง 2 หลักสูตร จะมีการฝึกปฏิบัติงานภาคฤดูร้อนของชั้นปีที่ 4 ไม่น้อยกว่า 420 ชั่วโมง และในปีสุดท้ายต้องฝึกงานทั้งปีไม่น้อยกว่า 1,680 ชั่วโมง ซึ่งการฝึกปฏิบัติงานมีทั้งภาคบังคับและให้นักศึกษาเลือกเพื่อสร้างความเชี่ยวชาญในสาขาที่ตนเองสนใจ
ในปีนี้นักศึกษายังคงต้องทำสัญญาการเป็นนักศึกษาและมีสัญญาค้ำประกันโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้ค้ำประกันตามประกาศของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยเมื่อภายหลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้วต้องปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือองค์กรของรัฐบาลต่าง ๆ ตามที่รัฐกำหนดเป็นเวลา 2 ปี ติดต่อกัน หรือชดใช้เงินจำนวน 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) สัญญานี้เป็นสัญญาฝ่ายเดียว หากรัฐบาลมีตาแหน่งก็จะประกาศให้ชดใช้ทุน แต่หากรัฐบาลไม่มีตำแหน่ง ผู้สาเร็จการศึกษาก็เป็นอิสระ ไม่ผูกพันกับรัฐบาล
การศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์
ผู้ที่จะศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ นอกจากจะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับนักศึกษาคณะอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้คือ มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่พิการ หรือทุพพลภาพ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตมีระยะเวลาในการศึกษา 4 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะคือ 2 ปีแรก ศึกษาวิชาพื้นฐานทั่วไปและพื้นฐานวิชาชีพ 2 ปีหลัง ศึกษาเฉพาะวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มีรายวิชาบังคับซึ่งจัดการเรียนการสอนภาคฤดูร้อน 1 ภาคการศึกษา คือชั้นปีที่ 3 การวัดผลรายวิชาชีพการพยาบาลนี้ รายวิชาทฤษฎีจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 2 และรายวิชาปฏิบัติจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 2 จึงจะถือว่าสอบได้ในรายวิชานั้น